รูดอล์ฟ เบเกอร์ (เยอรมนี): เพนโตกราฟี
ผลงานถ่ายภาพของรูดอล์ฟไม่ใช่การถ่ายภาพที่อิงจากภาพวาดหรือภาพถ่ายที่ผ่านการปรับแต่ง ผลงาน "Peintography" ของเขาไม่ได้มีความลำเอียงหรือความรู้สึก แต่เป็นการถ่ายทอดทางเลือกของศิลปินโดยปล่อยให้ผู้สังเกตถ่ายทอดความคิด อารมณ์ และการตีความของเขาไปยังภาพแต่ละภาพ
ผลงานถ่ายภาพของรูดอล์ฟไม่ใช่การถ่ายภาพที่อิงจากภาพวาดหรือภาพถ่ายที่ผ่านการปรับแต่ง ผลงาน "Peintography" ของเขาไม่ได้มีความลำเอียงหรือความรู้สึก แต่เป็นการถ่ายทอดทางเลือกของศิลปินโดยปล่อยให้ผู้สังเกตถ่ายทอดความคิด อารมณ์ และการตีความของเขาไปยังภาพแต่ละภาพ
งานศิลปะของรูดอล์ฟไม่ได้ปรากฏเป็นรูปเป็นร่างขึ้นเพียงผ่านภาพเท่านั้น แต่ยังเป็นรูปธรรมขึ้นจากปฏิสัมพันธ์ระหว่างการเลือกวัตถุและการสะท้อนของแต่ละคนของผู้สังเกต ในบทสนทนาระหว่างศิลปินและผู้สังเกตนี้ วัตถุธรรมดาๆ หรือการจัดวางโดยบังเอิญ กลายมาเป็นโลกแห่งความฝันอันน่าหลงใหล แหล่งที่มาของสัญญาณ วิสัยทัศน์ทางเพศ หรือกลุ่มภาพเหนือจริง
ด้วยเทคนิคการถ่ายภาพ รูดอล์ฟสร้างภาพลวงตาของงานศิลปะที่วาดด้วยสี นั่นคือเหตุผลที่เขาเรียกการถ่ายภาพของเขาว่า “Peintography” ซึ่งเป็นการผสมผสานระหว่างคำว่า “peinture” (จิตรกรรม) ในภาษาฝรั่งเศสและคำว่า “photography” รูดอล์ฟไม่ได้แสวงหาสิ่งที่รับรู้ได้ว่ามองไม่เห็น เขาละเลยความเป็นไปได้อันน่าทึ่งที่เกิดขึ้นจากการถ่ายภาพจุลทรรศน์หรือความลับของการถ่ายภาพด้วยรังสีเอกซ์ และไม่เคยพยายามสร้างความลึกลับเทียมๆ โดยการปรับแต่งวัตถุของเขาด้วยการตัดและขยายภาพ ในทางตรงกันข้าม ศิลปินกำลังค้นหาสิ่งที่เห็นได้ชัดเจน สิ่งที่ทุกคนสามารถมองเห็นได้ หากผู้คนเพียงแต่มองดูมัน
รูดอล์ฟค้นพบภาพอีโรติก โครงสร้างลึกลับ และองค์ประกอบที่น่าอัศจรรย์ซึ่งมักมีคุณค่าในการเล่าเรื่องสูง ด้วยความช่วยเหลือของกล้อง เขาสามารถหยิบวัตถุที่เขาเลือกออกจากความธรรมดาที่รับรู้ได้ แบ่งพวกมันออกเป็นโครงสร้างนามธรรม และปล่อยให้พวกมันพูดคุยกับผู้สังเกต
ดูเหมือนว่ารูดอล์ฟจะยอมให้กระบวนการสร้างวัตถุให้เป็นรูปธรรม (การถ่ายภาพ) เกิดขึ้นก่อนการพัฒนาภาพ ซึ่งแตกต่างจากหลักการของกลุ่ม "โฟโตฟอร์ม" ในช่วงต้นทศวรรษที่ 50 แนวคิดหลักคือมุมมองเชิงสร้างสรรค์ของศิลปินที่นำวัตถุจากหลักฐานที่รับรู้มาแสดงให้ผู้สังเกตเห็น
แม้ว่าผลงานของรูดอล์ฟจะมีความกลมกลืนอย่างล้นหลาม แต่ผลงานของรูดอล์ฟก็ไม่ได้ "สวยงามเมื่อมองดู" เท่านั้น ในภาพของเขา ปริศนาที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังความกลมกลืน ผลงานของเขาเป็นการอุทธรณ์ต่อ "จิตวิญญาณแห่งยุคสมัย" ที่มุ่งเน้นไปที่ทุกสิ่งที่บริโภคได้ง่าย เปลี่ยนแปลงได้อย่างรวดเร็ว และลืมได้ง่าย